(11 พ.ย.2567 ) สสส. โดยสมาคมเครือข่ายงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายและภาคเอกชน รวม 7 องค์กร ลงนามความร่วมมือ พร้อมจัดแถลงข่าวเปิดตัวโครงการ SDN FUTSAL NO – L CUP “เพื่อนกันมันส์โนแอล” ไม่ดื่ม ไม่สูบ ไม่เสพ ไม่พนัน (รุ่นเยาวชนชาย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี) ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ ห้องนาคาฮอลล์ 2 (ชั้น 2) The Hall (วิภาวดี64) กรุงเทพมหานคร

นายพิทยา จินาวัฒน์ คณะกรรมการบริหารแผน คณะที่ 1 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การส่งเสริมกิจกรรมและพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเยาวชนเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ สสส. ที่จะสร้างภูมิคุ้มกันจากปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะบุหรี่ไฟฟ้า ที่มีรูปลักษณ์น่าดึงดูด มีความเท่ห์ กลายเป็นแฟชั่น มีรูปลักษณ์เหมือนอาร์ตทอย ตุ๊กตา กล่องน้ำผลไม้ และเครื่องเขียน จนแยกไม่ออกจากของเล่นจริง มีสีสันสดใส กลิ่นหอมหวาน ทำให้เด็กอาจเข้าใจผิดได้ว่าไม่อันตรายและเลือกมาสูบ ส่วนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ข้อมูลรายงานของศูนย์วิจัยปัญหาสุรา พบเยาวชนอายุ 15-19 ปี เป็นนักดื่มหน้าใหม่ถึง 9.6% ในจำนวนนี้ 24.3% เป็นนักดื่มประจำ ที่อาจมีแนวโน้มดื่มจนติดตั้งแต่อายุยังน้อย ขณะที่การพนัน ในปี 2566 มีคนรุ่นใหม่อายุ 15-25 ปี เล่นพนันออนไลน์ 2.9 ล้านคน ในจำนวนนี้ 1.4 ล้านคน เสี่ยงเป็นนักพนันหน้าใหม่สูงถึง 700,000 คน ที่ติดการพนันมีความเสี่ยงเกิดภาวะซึมเศร้า และใช้สารเสพติดสูงกว่าคนทั่วไป 2-5 เท่า การเล่นพนันมีผลต่อสมองของเด็ก ยิ่งเล่นยิ่งติดจนขาดความยับยั้งชั่งใจ ส่งผลให้กลายเป็นคนลักขโมยเพราะต้องการเงินไปเล่นพนัน ส่วนยาเสพติดผิดกฎหมายที่กำลังแพร่ระบาด รวมถึงกัญชา กระท่อม ซึ่งเข้าถึงได้โดยง่ายในปัจจุบัน ดังนั้น จึงเป็นเรื่องน่าภูมิใจที่เกิดความร่วมมือกว่า 13 หน่วยงานในระดับประเทศ รวมถึงหน่วยงานในระดับจังหวัด โดย สสส. หวังว่าโครงการปีนี้จะยิ่งสร้างเครือข่ายหน่วยงานที่เข็มแข็งเพื่อเด็กเยาวชนต่อไป

นายธีระ วัชรปราณี ผู้อำนวยการ สมาคมเครือข่ายองค์กรงดเหล้าและปัจจัยเสี่ยงต่อสุขภาพ (สคล.) เปิดเผยว่า โครงการนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2561 ปัจจุบัน เป็นปี ที่ 7 และได้รับถ้วยพระราชทานฯ เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งดำเนินการในพื้นที่ 77 จังหวัด ปีนี้คาดว่าจะมีทีมร่วมแข่งขัน มากกว่า 1,000 ทีม รวมเป็นจำนวนนักกีฬาและโค้ชเข้าร่วมกว่า 20,000 คน โดยเปิดรับการแข่งขันอย่างน้อยจังหวัดละ 12 ทีม แต่บางจังหวัดสามารถเปิดรับถึง 16 ทีม หรือ สมุทรปราการ 32 ทีม แม่ฮ่องสอนจัดแข่งทั้งจังหวัด กว่า 24 ทีม เชียงราย 24 ทีม เป็นต้น ทำให้รายการนี้เป็นรายการที่เปิดโอกาสทีมกีฬาทุกประเภททั้งทีมโรงเรียน ทีม Academy ทีมสมัครเล่น และให้เด็กทุกคนไม่จำกัดสัญชาติขอให้อยู่ในพื้นแผ่นดินไทยให้เข้าร่วมมากที่สุดในเวลานี้ ทั้งนี้ ผลการแข่งขันผู้ชนะระดับจังหวัดจะได้เข้าร่วมชิงแชมป์ระดับโซน 10 โซน และผู้ชนะ 10 ทีมระดับโซน บวก 2 ทีม ที่เป็นการนำที่ 2 ของ 10 โซนจับฉลากเทพีแห่งโชคเข้าร่วมระดับประเทศ ซึ่งรอบชิงแชมป์ประเทศจะจัดในช่วงเดือนมีนาคม 2568

สิ่งสำคัญคือ “โค้ชและผู้ใหญ่ใจดี” ที่สนับสนุนเด็กเยาวชน ซึ่งในปีที่ผ่านมา ได้เก็บแบบสอบถาม 945 คน พบว่า ร้อยละ 81.48 ไม่ได้ดื่มเหล้า ไม่ยุ่งเกี่ยวกับบุหรี่ กัญชาและการพนัน และเด็กเยาวชนเห็นว่าโค้ชมีการเปลี่ยนแปลงในที่ที่ดี กว่าร้อยละ 51.92 ดังนั้น โครงการจึงต่อยอดมอบรางวัลยอดโค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจ ผู้ที่มีความมุ่งมั่นสร้างทีม เป็นทีมให้โอกาสเยาวชน สร้างคุณค่าของกีฬามากกว่าการเอาชนะการแข่งขัน และไม่ดื่ม ไม่สูบเป็นแบบอย่างของเยาวชน ดังสโลแกนที่ว่า “เมื่อผู้ใหญ่เปลี่ยน เด็กจะเปลี่ยน” โดยย้ำว่า ผู้ใหญ่เป็นปัจจัยสำคัญที่จะหล่อหลอมเด็กๆ และรายการนี้เชื่อมั่นว่าเด็กๆ ที่กำลังอยู่ในวัยอยากรู้อยากลองจะมีวัคซีนที่ดีมีภูมิคุ้มกันที่จะไม่ไปใช้เหล้าบุหรี่พนันสารเสพติดที่เป็นปัจจัยเสี่ยงสุขภาพและอันตรายต่ออนาคต ซึ่งการสำรวจนักกีฬาในปีที่ผ่านมา 5,740 คน พบว่า นักกีฬาส่วนใหญ่ ร้อยละ 70 ที่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยว แต่พบว่า ร้อยละ 30 เคยเกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งในปีนี้เรามีกิจกรรมที่ต่อเนื่องมาทั้งปี จนมาเปิดฤดูกาลแข่งขัน จึงหวังว่าตัวเลข 30% นี้จะลดลง เพราะในวัยนี้น้องๆ ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยว

ทางด้าน นายจรูญ แก้วมุกดากุล รองอธิบดีฯ ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิบดีกรมพลศึกษา กล่าวว่า กรมพลศึกษาได้มุ่งเน้นส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนเล่นกีฬาและมีจิตใจที่รักการออกกำลังกาย เพื่อให้เยาวชนไทยมีสุขภาพแข็งแรง มีทักษะกีฬา ทัศนคติสุภาพบุรุษ “มิตรภาพ ให้อภัย มีน้ำใจนักกีฬา” และสามารถพัฒนาในระดับที่สูงขึ้นเป็นนักกีฬาอาชีพ โดยทางกรมพลศึกษาได้สนับสนุนบุคลากรผู้ตัดสินการแข่งขันตั้งแต่ระดับโซน นอกจากนั้น ยังร่วมมือจัดอบรม “โค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจ” ซึ่งเป็นระดับ T-License ร่วมกับโครงการกว่า 100 คน ซึ่งปีหน้านี้จะเปิดอบรมอีก 100 คน ซึ่งจะมีการเพิ่มหลักสูตรด้านจิตวิทยาเยาวชนด้านกีฬา คุณธรรม ทัศนคติ เพื่อสร้าง “ครอบครัวฟุตซอล” ให้เป็นฐานที่เข้มแข็งในอนาคต

นายอนุพงษ์ ไชยฤทธิ์ รองผู้อำนวยการองค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ส.ส.ท.) เวทีการแข่งขันกีฬาในประเทศไทยที่จะส่งเสริมเด็กและเยาวชนมีน้อยมาก เพราะกีฬาเยาวชนส่วนใหญ่ไม่สร้างรายได้ให้กับช่อง อีกทั้งยังเรตติ้งไม่ดี ดังนั้นรายการที่เรากำลังร่วมมือกันอยู่นี้ ช่องไทยพีบีเอสจึงตอบโจทย์สังคมที่สุด เราเพียงคาดหวังให้เด็กและเยาวชนมีพื้นที่ในการสร้างสรรค์และแสดงออก รายการ SDN FUTSAL NO – L CUP 2025 จึงเป็นพันธกิจสำคัญของไทยพีบีเอสเช่นกัน มีความเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างสังคมที่ดีและปลอดภัยสำหรับเยาวชนไทย และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วนในการทำให้โครงการนี้ประสบความสำเร็จ และจะช่วยให้เยาวชนทั่วประเทศได้มีโอกาสรับชมและได้รับแรงบันดาลใจจากการแข่งขันนี้

นายธีระ กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับภาคเอกชน ที่ร่วมสนับสนุนการแข่งขัน มีผลิตภัณฑ์ลูกฟุตซอล ยี่ห้อ MASZA สนับสนุนลูกฟุตซอลที่ใช้ในการแข่งขัน รองเท้ายี่ห้อ BAOJI สนับสนุนรองเท้าสำหรับนักกีฬาที่ใช้ในการแข่งขัน และ ผลิตภัณฑ์ Bangkrirk Design สนับสนุนชุดกีฬาสำหรับนักกีฬาและทีมงานจัดการแข่งขันในครั้งนี้ โดยการสนับสนุนดังกล่าวเป็นไปเพื่อสังคมโดยรวมและไม่มีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับภารกิจในการสร้างเสริมสุขภาพตามหลักการของ สสส. สำหรับผู้สนใจสามารถติดตามการรับสมัคร โปรแกรมการแข่งขัน และผลการแข่งขัน ได้ที่ Facebook page SDN FUTSAL NO – L